สัตว์เดรัจฉาน กับ มนุษย์
3 posters
หน้า 1 จาก 1
สัตว์เดรัจฉาน กับ มนุษย์
จากที่เคยคุยกับพี่ต๋องและหลายๆคนในLine เรื่องจิตใจสูงกับจิตใจต่ำ ทำให้ผมได้มาโพสให้ความเข้าใจกับเพื่อนๆที่นี้ครับ
เคยตั้งคำถามกับตัวเองมั้ยครับว่า เราเกิดมาทำไม เรามาอยู่บนโลกใบนี้ทำไม
เราจะทำงานหนักกันไปทำไม เราจะเห็นแก่ตัวไปกันทำไม
เราจะไม่ช่วยเหลือเอาแต่ตัวเองรอดคนเดียวทำไม
เราจะกินให้อร่อย และแพงๆเยอะๆ ไปเพื่ออะไร ทั้งๆที่แดรกเยอะก็อ้วน เป็นโรค ส่วนกินน้อยร่างกายแข็งแรงดีอีกตะหาก
ส่วนกามเราจะเอาเมียสวยๆน่ารักนมใหญ่ๆหรือเสพกามตามใจชอบ แบบนี้ไปตลอดยังงี้งั้นเหรอ ทำแม่งมามากละก็ไม่เห็นแม่งมีไรดีขึ้น แย่ลงอีกด้วย เฮ้อออ
และจุดสุดท้ายไปอยู่ตรงไหน ......................................... เคยถามกับตัวเองไหมครับ?????????????????????
ผมตั้งคำถามให้กับตัวเองหลายครั้ง ผมคิดรอบด้านเลย
เราจะร่ำรวยมีเงินทองเยอะเยะ ไปเพื่ออะไร ทั้งๆที่คนเรามีอายุไม่ถึง 100ปี
และอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุด ตอนที่เราเป็นคน.........
คำว่า มนุษย์ กับ คน นั้นมีความหมายไม่เหมือนกัน ถ้าเราเข้าใจคำทั้งสองนี้แล้วเราก็จะรู้จักว่าเรานั้นเป็นคนหรือเป็นมนุษย์กันแน่.
คือคำว่า คน หมายถึง สัตว์ชนิดหนึ่งของโลก ที่ทำอะไรๆไปตามสัญชาติญาณที่มีมาแต่กำเนิด เช่นไม่รู้จักใช้สติปัญญา, ไม่รู้จักควบคุมตัวเอง, ชอบใช้กำลังในการแก้ปัญหา, ไม่รู้จักความกตัญญูกตเวที, ไม่รู้จักกริยามารยาทที่ดี, สมสู่กันตามความรู้สึกเฉพาะหน้า, ไม่มีความเมตตากรุณา, เป็นต้น ถ้าสัตว์ชนิดที่มีลำตัวขนานกับโลกก็เรียกว่าสัตว์เดรัจฉาน แต่ถ้าตั้งตรงก็เรียกว่า คน
คำว่า มนุษย์ หมายถึง ผู้มีใจสูง คือมีใจสูงกว่าสัตว์ หรือสูงกว่าคน เพราะมีคุณธรรมของความเป็นมนุษย์ ซึ่งคุณธรรมของความเป็นมนุษย์นั้นก็ได้แก่ความกตัญญูกตเวที, ความมีเมตตากรุณา, ความสำรวมในกาม, การมีกิริยามารยาทดีงาม, การรู้จับควบคุมตัวเอง, และรู้จักใช้สติปัญญาในการแก้ปัญหา เป็นต้น
คนเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่เนื้อสมองมากกว่าสัตว์ชนิดอื่นเมื่อเทียบกับร่างกาย เมื่อมีสมองมากจึงทำให้คิดได้มากและซับซ้อน ซึ่งนี่เป็นเหตุให้คนนั้นรู้จักคิดค้นและพัฒนาวัตถุต่างๆขึ้นมามากมายในโลก จนเกิดเป็นความเจริญอย่างเช่นที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่เพราะคนนั้นไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนให้เป็นคนดีและมีความรู้ที่ถูกต้องและควรรู้ในเรื่องของชีวิตว่าเกิดมาทำไม? อะไรคือสิ่งสูงสุดที่ควรได้รับ? และจะได้โดยวิธีใด? จึงทำให้คนนั้น ดำเนินชีวิตไปตามสัญชาติญาณดั้งเดิม (ซึ่งก็คือสัญชาติญาณของสัตว์ที่รู้สึกว่ามีตัวเอง) เมื่อมีความมีความรู้สึกว่ามีตัวเอง จึงทำให้เกิดความเห็นแก่ตัว คือเมื่อเกิดความรักหรือพอใจก็พยายามที่จะแสวงหาหรือเอาเข้ามาเป็นของตัวเอง เมื่อเกิดความโกรธหรือไม่พอใจ ก็พยายามที่จะทำลายให้หายไปจากตัวเอง เป็นต้น จึงทำให้ความเจริญของคนนั้นเกิดปัญหาตามมามากมายจากความเจริญ เช่น ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาสภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม ปัญหามลพิษ ปัญหาภัยธรรมชาติ ปัญหาโรคระบาดร้ายแรง ปัญหาความอดอยากขาดแคลน ปัญหาการเอารัดเอาเปรียบกัน และปัญหาสงคราม เป็นต้น ซึ่งปัญหานี้เองที่นำความเดือดร้อนหรือวิกฤติการณ์มาให้สังคมของคนโดยรวมอย่างเช่นที่กำลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน
การพัฒนาของคนนั้นจะเป็นการพัฒนาไปตามสัญชาติญาณของสัตว์ จึงทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย แต่ถ้าคนนั้นจะรู้จักพัฒนาจิตใจของตนเองให้สูงขึ้นกว่าสัตว์ คือให้กลายมาเป็นมนุษย์ที่มีใจสูง ก็จะทำให้การพัฒนาวัตถุเดินไปอย่างถูกต้อง คือไม่เกิดปัญหา จะมีแต่ช่วยให้เกิดความปกติสุขแก่สังคมและโลก อันจะนำสันติภาพมาให้อย่างยั่งยืน
สิ่งที่จะช่วยพัฒนาจิตใจของคนให้สูงขึ้นมาเป็นมนุษย์ได้นั้น พื้นฐานก็ต้องอาศัยศาสนามาช่วย โดยการปลูกฝังตั้งแต่ยังเด็กให้รู้จักว่า ชีวิตต้องพึ่งพาอาศัยกัน ต้องช่วยเหลือกัน รู้จักให้อภัย รู้จักเสียเสละ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ทำอะไรตามใจ ไม่ล่วงละเมิดชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่ใช้กำลังในการแก้ปัญหา ไม่ลุ่มหลงสิ่งเสพติด สิ่งฟุ่มเฟือย มีความขยัน อดทน มีความสำรวมระวังในการใช้วาจา มีความสามัคคี เป็นต้น ก็จะทำให้คนนั้นก้าวพ้นจากคนมาเป็นมนุษย์ได้ แต่ถ้าจะให้เป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์ได้ จะต้องอบรมให้เกิดปัญญาเห็นแจ้งชีวิตว่าชีวิตของเราและทุกคนนั้นเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ อันได้แก่ หน้าที่ในการดูแลรักษาร่างกาย หน้าที่ในการดูและครอบครัว สังคมประเทศชาติ หน้าที่ในการดูแลธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หน้าที่ในการรักษาสันติภาพให้แก่โลก และหน้าที่ในการดับทุกข์ของจิตใจ เมื่อคนมีความเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์แล้ว สันติสุขก็จักบังเกิดแก่มนุษย์ทุกคน และสันติภาพก็จะบังเกิดขึ้นในโลก
จึงขอฝากให้เราทุกคนได้เอาไปคิด ว่าเรานี้เป็นมนุษย์กันแล้วหรือยัง? หรือว่ายังเป็นแค่เพียงคนที่เป็นเพียงสัตว์ชนิดหนึ่งที่เหมือนกับสัตว์เดรัจฉานทั่วไปเท่านั้น? เพื่อที่จะได้รู้สึกตัวและหันมาพัฒนาตนเองให้สูงขึ้น ดีขึ้น จนกลายมาเป็นมนุษย์ที่หมายถึงสัตว์ที่ประเสริฐ อันจะทำให้ได้รับสิ่งสูงสุดที่มนุษย์ควรจะได้รับกันต่อไป
(ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก www.whatami.net)
เคยตั้งคำถามกับตัวเองมั้ยครับว่า เราเกิดมาทำไม เรามาอยู่บนโลกใบนี้ทำไม
เราจะทำงานหนักกันไปทำไม เราจะเห็นแก่ตัวไปกันทำไม
เราจะไม่ช่วยเหลือเอาแต่ตัวเองรอดคนเดียวทำไม
เราจะกินให้อร่อย และแพงๆเยอะๆ ไปเพื่ออะไร ทั้งๆที่แดรกเยอะก็อ้วน เป็นโรค ส่วนกินน้อยร่างกายแข็งแรงดีอีกตะหาก
ส่วนกามเราจะเอาเมียสวยๆน่ารักนมใหญ่ๆหรือเสพกามตามใจชอบ แบบนี้ไปตลอดยังงี้งั้นเหรอ ทำแม่งมามากละก็ไม่เห็นแม่งมีไรดีขึ้น แย่ลงอีกด้วย เฮ้อออ
และจุดสุดท้ายไปอยู่ตรงไหน ......................................... เคยถามกับตัวเองไหมครับ?????????????????????
ผมตั้งคำถามให้กับตัวเองหลายครั้ง ผมคิดรอบด้านเลย
เราจะร่ำรวยมีเงินทองเยอะเยะ ไปเพื่ออะไร ทั้งๆที่คนเรามีอายุไม่ถึง 100ปี
และอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุด ตอนที่เราเป็นคน.........
เราเป็นมนุษย์หรือเป็นคน
คำว่า มนุษย์ กับ คน นั้นมีความหมายไม่เหมือนกัน ถ้าเราเข้าใจคำทั้งสองนี้แล้วเราก็จะรู้จักว่าเรานั้นเป็นคนหรือเป็นมนุษย์กันแน่.
คือคำว่า คน หมายถึง สัตว์ชนิดหนึ่งของโลก ที่ทำอะไรๆไปตามสัญชาติญาณที่มีมาแต่กำเนิด เช่นไม่รู้จักใช้สติปัญญา, ไม่รู้จักควบคุมตัวเอง, ชอบใช้กำลังในการแก้ปัญหา, ไม่รู้จักความกตัญญูกตเวที, ไม่รู้จักกริยามารยาทที่ดี, สมสู่กันตามความรู้สึกเฉพาะหน้า, ไม่มีความเมตตากรุณา, เป็นต้น ถ้าสัตว์ชนิดที่มีลำตัวขนานกับโลกก็เรียกว่าสัตว์เดรัจฉาน แต่ถ้าตั้งตรงก็เรียกว่า คน
คำว่า มนุษย์ หมายถึง ผู้มีใจสูง คือมีใจสูงกว่าสัตว์ หรือสูงกว่าคน เพราะมีคุณธรรมของความเป็นมนุษย์ ซึ่งคุณธรรมของความเป็นมนุษย์นั้นก็ได้แก่ความกตัญญูกตเวที, ความมีเมตตากรุณา, ความสำรวมในกาม, การมีกิริยามารยาทดีงาม, การรู้จับควบคุมตัวเอง, และรู้จักใช้สติปัญญาในการแก้ปัญหา เป็นต้น
คนเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่เนื้อสมองมากกว่าสัตว์ชนิดอื่นเมื่อเทียบกับร่างกาย เมื่อมีสมองมากจึงทำให้คิดได้มากและซับซ้อน ซึ่งนี่เป็นเหตุให้คนนั้นรู้จักคิดค้นและพัฒนาวัตถุต่างๆขึ้นมามากมายในโลก จนเกิดเป็นความเจริญอย่างเช่นที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่เพราะคนนั้นไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนให้เป็นคนดีและมีความรู้ที่ถูกต้องและควรรู้ในเรื่องของชีวิตว่าเกิดมาทำไม? อะไรคือสิ่งสูงสุดที่ควรได้รับ? และจะได้โดยวิธีใด? จึงทำให้คนนั้น ดำเนินชีวิตไปตามสัญชาติญาณดั้งเดิม (ซึ่งก็คือสัญชาติญาณของสัตว์ที่รู้สึกว่ามีตัวเอง) เมื่อมีความมีความรู้สึกว่ามีตัวเอง จึงทำให้เกิดความเห็นแก่ตัว คือเมื่อเกิดความรักหรือพอใจก็พยายามที่จะแสวงหาหรือเอาเข้ามาเป็นของตัวเอง เมื่อเกิดความโกรธหรือไม่พอใจ ก็พยายามที่จะทำลายให้หายไปจากตัวเอง เป็นต้น จึงทำให้ความเจริญของคนนั้นเกิดปัญหาตามมามากมายจากความเจริญ เช่น ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาสภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม ปัญหามลพิษ ปัญหาภัยธรรมชาติ ปัญหาโรคระบาดร้ายแรง ปัญหาความอดอยากขาดแคลน ปัญหาการเอารัดเอาเปรียบกัน และปัญหาสงคราม เป็นต้น ซึ่งปัญหานี้เองที่นำความเดือดร้อนหรือวิกฤติการณ์มาให้สังคมของคนโดยรวมอย่างเช่นที่กำลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน
การพัฒนาของคนนั้นจะเป็นการพัฒนาไปตามสัญชาติญาณของสัตว์ จึงทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย แต่ถ้าคนนั้นจะรู้จักพัฒนาจิตใจของตนเองให้สูงขึ้นกว่าสัตว์ คือให้กลายมาเป็นมนุษย์ที่มีใจสูง ก็จะทำให้การพัฒนาวัตถุเดินไปอย่างถูกต้อง คือไม่เกิดปัญหา จะมีแต่ช่วยให้เกิดความปกติสุขแก่สังคมและโลก อันจะนำสันติภาพมาให้อย่างยั่งยืน
สิ่งที่จะช่วยพัฒนาจิตใจของคนให้สูงขึ้นมาเป็นมนุษย์ได้นั้น พื้นฐานก็ต้องอาศัยศาสนามาช่วย โดยการปลูกฝังตั้งแต่ยังเด็กให้รู้จักว่า ชีวิตต้องพึ่งพาอาศัยกัน ต้องช่วยเหลือกัน รู้จักให้อภัย รู้จักเสียเสละ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ทำอะไรตามใจ ไม่ล่วงละเมิดชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่ใช้กำลังในการแก้ปัญหา ไม่ลุ่มหลงสิ่งเสพติด สิ่งฟุ่มเฟือย มีความขยัน อดทน มีความสำรวมระวังในการใช้วาจา มีความสามัคคี เป็นต้น ก็จะทำให้คนนั้นก้าวพ้นจากคนมาเป็นมนุษย์ได้ แต่ถ้าจะให้เป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์ได้ จะต้องอบรมให้เกิดปัญญาเห็นแจ้งชีวิตว่าชีวิตของเราและทุกคนนั้นเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ อันได้แก่ หน้าที่ในการดูแลรักษาร่างกาย หน้าที่ในการดูและครอบครัว สังคมประเทศชาติ หน้าที่ในการดูแลธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หน้าที่ในการรักษาสันติภาพให้แก่โลก และหน้าที่ในการดับทุกข์ของจิตใจ เมื่อคนมีความเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์แล้ว สันติสุขก็จักบังเกิดแก่มนุษย์ทุกคน และสันติภาพก็จะบังเกิดขึ้นในโลก
จึงขอฝากให้เราทุกคนได้เอาไปคิด ว่าเรานี้เป็นมนุษย์กันแล้วหรือยัง? หรือว่ายังเป็นแค่เพียงคนที่เป็นเพียงสัตว์ชนิดหนึ่งที่เหมือนกับสัตว์เดรัจฉานทั่วไปเท่านั้น? เพื่อที่จะได้รู้สึกตัวและหันมาพัฒนาตนเองให้สูงขึ้น ดีขึ้น จนกลายมาเป็นมนุษย์ที่หมายถึงสัตว์ที่ประเสริฐ อันจะทำให้ได้รับสิ่งสูงสุดที่มนุษย์ควรจะได้รับกันต่อไป
(ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก www.whatami.net)
Triumphz- จำนวนข้อความ : 181
Join date : 18/04/2015
Re: สัตว์เดรัจฉาน กับ มนุษย์
ในความเห็นผม ระหว่าง "คน" กับ "มนุษย์" เป็นเรื่องของภาษาที่สมมุติกันให้เรียกให้ใช้ตามแต่ละสถานการณ์เท่านั้น
เรื่องความหมายนั้นก็ไม่ต้องไปคิดมาก มันซือ ๆ กัน นอกเสียจากว่าจะเอาไปสอบก็อาจจะได้คะแนนครับ
ส่วนเรื่องความหมายของการเป็นคน จะเป็นอย่างไร ก็สุดแท้แต่ใครจะตั้งไว้กันเอาเองครับ
ผมอยากเป็นคนดีนะ สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ มีชีวิตที่มีความสุข อยากเข้าถึงหรือรู้สึกถึงความรักสูงสุดด้วยล่ะครับ ประมาณนี้
เรื่องความหมายนั้นก็ไม่ต้องไปคิดมาก มันซือ ๆ กัน นอกเสียจากว่าจะเอาไปสอบก็อาจจะได้คะแนนครับ
ส่วนเรื่องความหมายของการเป็นคน จะเป็นอย่างไร ก็สุดแท้แต่ใครจะตั้งไว้กันเอาเองครับ
ผมอยากเป็นคนดีนะ สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ มีชีวิตที่มีความสุข อยากเข้าถึงหรือรู้สึกถึงความรักสูงสุดด้วยล่ะครับ ประมาณนี้
BillyBird- จำนวนข้อความ : 126
Join date : 16/01/2015
Age : 37
ที่อยู่ : Bangkok
Re: สัตว์เดรัจฉาน กับ มนุษย์
อั้มจะเปลี่ยนเป็นบอร์ดศาสนาแล้วเหรอ 5555
คำถามเราเกิดมาทำไม เป็นคำถามที่สามารถตอบได้แบบสวยๆหรูๆ ตอบแบบความเชื่อความศรัทธาของศาสนา
หรือมีไม่น้อยที่ตอบว่า ไม่รู้ กูไม่ได้อยากเกิด โคตรซวยเลย อันนี้ตอบแบบลบ
ตอบแบบกลางๆและไม่อิงศาสนาแต่คิดบวกคือ เราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิต ทำความดี สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ
ใช้ความสามารถในการแก้ปัญหาที่เข้ามา เป็นที่จดจำแก่ชาวโลกแม้จะตายไปแล้ว
ส่วนตัว พี่มองว่าถ้าไม่มีเรื่องศาสนาอยู่จริงๆ หมายถึงตายแล้วสูญเหมือนที่คนไร้ศาสนาเชื่อกัน
คนทุกคนสามารถทำอะไรก็ได้ ฆ่าสัตว์ได้ เพราะไม่บาป ขอแค่คุณรักษากฎหมายหรือทำชั่วแต่รอดจากกฎหมายได้ก็พอแล้ว หรือแก้ปัญหาไม่ได้ก็ฆ่าตัวตายซะ จบแค่นั้น
แต่ๆๆๆๆ ในมุมมองส่วนตัวและความศรัทธาในศาสนาพุทธ พี่มองไปรอบตัว ทำไมทุกคนเกิดมาไม่เท่ากัน บางคนรวย บางคนจน บางคนสวย บางคนขี้เหร่ บางคนตายตั้งแต่ในท้อง บางคนตายตอนอายุ100กว่า บางคนพิการ เยอะแยะมากมาย
พี่จึงมองว่าการเวียนว่ายตายเกิดมันน่าจะมีอยู่จริง ภพชาติมีอยู่จริง ใครทำอะไรได้รับสิ่งนั้นมีอยู่จริง การสะสมบุญบาปมีอยู่จริง ซึงถ้าทุกคนคิดแบบพี่ คำถามว่าเกิดมาทำไม มันจะตอบง่ายมาก คือเกิดมาเพื่อสะสมบุญบารมีต่อไปเพื่อเข้าสู่นิพพานให้เร็วที่สุด หรือบางคนที่คิดว่านิพพานไปลำบาก ก็อาจจะตอบแบบง่ายๆว่า เกิดมาเพื่อสะสมบารมีให้ชีวิตดีขึ้นทั้งชาตินี้และชาติต่อๆไป
เวียนว่ายตายเกิดมีจริงหรือไม่ มีนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกาทดลองกับกรณีศึกษาต่างๆเกี่ยวกับการระลึกชาติมากว่า27ปีจากคนทั่วโลก และเขายืนยันว่าเป็นเรื่องจริง แม้จะแค่ตีพิมพ์หนังสือและงานวิจัยของเขา
แต่เราต้องเข้าใจว่าถ้าเป็นเรื่องจริง มันจะทำให้ศาสนาอื่นมีปัญหาเพราะความเชื่อตรงนี้มีแค่พุทธกับฮินดู
เอาเถอะครับมันเป็นแค่ความเชื่อ ไม่มีถูกผิดและไม่ทะเลาะกัน แต่ขอปิดท้ายแบบขำๆว่า ถ้าผีมีจริง เรื่องต่างๆเกี่ยวกับศาสนาก็เรื่องจริง ดังนั้นใครจับผีมาออกทีวีได้ จะไม่มีคนที่ไม่เชื่อเรื่องศาสนาอีกต่อไปครับ
คำถามเราเกิดมาทำไม เป็นคำถามที่สามารถตอบได้แบบสวยๆหรูๆ ตอบแบบความเชื่อความศรัทธาของศาสนา
หรือมีไม่น้อยที่ตอบว่า ไม่รู้ กูไม่ได้อยากเกิด โคตรซวยเลย อันนี้ตอบแบบลบ
ตอบแบบกลางๆและไม่อิงศาสนาแต่คิดบวกคือ เราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิต ทำความดี สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ
ใช้ความสามารถในการแก้ปัญหาที่เข้ามา เป็นที่จดจำแก่ชาวโลกแม้จะตายไปแล้ว
ส่วนตัว พี่มองว่าถ้าไม่มีเรื่องศาสนาอยู่จริงๆ หมายถึงตายแล้วสูญเหมือนที่คนไร้ศาสนาเชื่อกัน
คนทุกคนสามารถทำอะไรก็ได้ ฆ่าสัตว์ได้ เพราะไม่บาป ขอแค่คุณรักษากฎหมายหรือทำชั่วแต่รอดจากกฎหมายได้ก็พอแล้ว หรือแก้ปัญหาไม่ได้ก็ฆ่าตัวตายซะ จบแค่นั้น
แต่ๆๆๆๆ ในมุมมองส่วนตัวและความศรัทธาในศาสนาพุทธ พี่มองไปรอบตัว ทำไมทุกคนเกิดมาไม่เท่ากัน บางคนรวย บางคนจน บางคนสวย บางคนขี้เหร่ บางคนตายตั้งแต่ในท้อง บางคนตายตอนอายุ100กว่า บางคนพิการ เยอะแยะมากมาย
พี่จึงมองว่าการเวียนว่ายตายเกิดมันน่าจะมีอยู่จริง ภพชาติมีอยู่จริง ใครทำอะไรได้รับสิ่งนั้นมีอยู่จริง การสะสมบุญบาปมีอยู่จริง ซึงถ้าทุกคนคิดแบบพี่ คำถามว่าเกิดมาทำไม มันจะตอบง่ายมาก คือเกิดมาเพื่อสะสมบุญบารมีต่อไปเพื่อเข้าสู่นิพพานให้เร็วที่สุด หรือบางคนที่คิดว่านิพพานไปลำบาก ก็อาจจะตอบแบบง่ายๆว่า เกิดมาเพื่อสะสมบารมีให้ชีวิตดีขึ้นทั้งชาตินี้และชาติต่อๆไป
เวียนว่ายตายเกิดมีจริงหรือไม่ มีนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกาทดลองกับกรณีศึกษาต่างๆเกี่ยวกับการระลึกชาติมากว่า27ปีจากคนทั่วโลก และเขายืนยันว่าเป็นเรื่องจริง แม้จะแค่ตีพิมพ์หนังสือและงานวิจัยของเขา
แต่เราต้องเข้าใจว่าถ้าเป็นเรื่องจริง มันจะทำให้ศาสนาอื่นมีปัญหาเพราะความเชื่อตรงนี้มีแค่พุทธกับฮินดู
เอาเถอะครับมันเป็นแค่ความเชื่อ ไม่มีถูกผิดและไม่ทะเลาะกัน แต่ขอปิดท้ายแบบขำๆว่า ถ้าผีมีจริง เรื่องต่างๆเกี่ยวกับศาสนาก็เรื่องจริง ดังนั้นใครจับผีมาออกทีวีได้ จะไม่มีคนที่ไม่เชื่อเรื่องศาสนาอีกต่อไปครับ
keisukehonda- จำนวนข้อความ : 57
Join date : 18/02/2015
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ